กระแสชานมไข่มุกและชาชนิดต่างๆเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในขณะนี้ โดยเห็นได้จากจำนวนร้านค้าชานมไข่มุกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้คุณค่าทางโภชนาการของเครื่องดื่มที่กำลังมาแรงในขณะนี้
นักวิชาการเตือน ชาไข่มุก ชาเย็น กาแฟเย็น เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อ้วน โดยเฉพาะวัยรุ่นนิยมกันมากบางคนดื่มวันละ 3 แก้ว ทำน้ำหนักพุ่งและมีน้ำหนักตัวเกินกว่ามาตรฐาน ชานมไข่มุก 1 แก้ว มิได้มีเพียงแต่น้ำชาเท่านั้น แต่ยังมีน้ำเชื่อม ครีมเทียม และไข่มุกเพิ่มขึ้นมา ข้อมูลทางโภชนาการระบุว่า ชานมไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงาน 240 – 360 กิโลแคลอรี่ (คาร์โบไฮเดรต 45 – 62 กรัม, ไขมัน 0 – 14 กรัม, โปรตีน 0.4 – 2 กรัม) ความแตกต่างของพลังงานและสารอาหารขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำเชื่อมและครีมเทียมที่ใส่ลงไป
โดยไข่มุกที่อยู่ในชานมไข่มุกนั้น ผลิตมาจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งจัดอยู่ในอาหารหมวดเดียวกับแป้งและน้ำตาล โดยไข่มุก 30 กรัม ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี่ ซึ่งพลังงานที่ได้จากการดื่มชานมไข่มุกใกล้เคียงกับการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ 1 ชาม ที่ให้พลังงาน 326 กิโลแคลอรี่ (คาร์โบไฮเดรต 41 กรัม, ไขมัน 8 กรัม, โปรตีน 21 กรัม) หรือเปรียบเทียบปริมาณน้ำตาลที่ได้รับจากชานมไข่มุกจะเท่ากับข้าว 3 – 4 ทัพพี
จริงอยู่ว่ามีการศึกษามากมายที่ระบุถึงประโยชน์ของการดื่มน้ำชาเพื่อสุขภาพ เช่น สามารถช่วยลดความดันโลหิต ลดไขมันในหลอดเลือด และการมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านี้ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของชาและความเข้มข้นในการบริโภค แต่การบริโภคชาเปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน คือ การดื่มชาในปริมาณที่มากเกินไปอาจเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น ท้องผูก นอนไม่หลับ เป็นต้น
แต่การดื่มชาคู่กับนมหรือน้ำตาลจะลดคุณสมบัติของชาในการต้านอนุมูลอิสระ ยิ่งไปกว่านั้น น้ำตาลที่ใส่ในน้ำชายังถือเป็นสิ่งที่ให้พลังงานสูญเปล่า หมายถึงสิ่งที่ให้พลังงานที่มาจากคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวโดยไม่มีสารอาหารอย่างอื่นที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีการศึกษาระบุว่า การดื่มน้ำตาลในปริมาณมาก ๆ อย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือดเหมือนกับการดื่มน้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มประเภทชาเขียวพร้อมดื่มที่มีวางจำหน่ายทั่วไป นอกจากนี้ ครีมเทียมที่ใส่ลงในชานม ไขมันส่วนใหญ่จะผลิตจากไขมันปาล์มซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวสูง โดยเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า การบริโภคกรดไขมันอิ่มตัวเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ดังนั้น การบริโภคชานมไข่มุกเป็นประจำอาจนำไปสู่การเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งการดื่มชานมไข่มุกที่เหมาะสมคือ การดื่มโดยคำนึงถึงพลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวัน โดยการทดแทนการดื่มชานมไข่มุกกับการลดการบริโภคอาหารในกลุ่มข้าว แป้ง หรือการลดปริมาณน้ำตาลที่ใส่ในชานมไข่มุกที่คุณสั่ง และหลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมลงไปในชานมไข่มุกที่คุณสั่ง เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถลดอันตรายที่มาจากชานมไข่มุกได้
ใครที่รู้ตัวว่ากินวันละหลายแก้วควรหลีกเลี่ยง อยากให้รณรงค์ลดการดื่มลง เพราะทั้งหวานและมัน ควรจะหันมาดื่มน้ำเปล่าดีกว่านะคะ
Credit: ไทยโพส, ทิวาพร มณีรัตนศุภร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล