Cape Gooseberry “โทงเทงฝรั่ง”หนึ่งในสุดยอดผลไม้กลุ่มเบอร์รี่

Cape Gooseberry หรือ เรียกชื่อไทยๆ ว่า “โทงเทงฝรั่ง” เป็นผลไม้ในกลุ่เบอร์รี่ เห็นผลเล็กๆแบบนี้ แต่เคพกูสเบอร์รี่ ถือเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์มากมาย เรียกได้ว่าถึงจะเล็กแต่ก็เล็กพริกขี้หนู ทั้งด้านคุณค่าทางอาหาร แร่ธาตุ วิตามิน แถมให้พลังงานต่ำ เหมาะมากที่จะนำมาทานเป็นของว่างในช่วงควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

เคพกูสเบอร์รี่ คืออะไร

เคพกูสเบอร์รี่  (Cape gooseberry) อยู่ในจีนัส Physalis และในตระกูล Solanaceae พวกเดียวกับพริก  มะเขือ  มะเขือเทศ  มันฝรั่ง  ยาสูบ  พิทูเนีย  ซึ่งมีชื่อเรียกมากมายตามแต่ถิ่นที่ปลูกเช่น  Ground cherries, Physalis minima, Pygmy ground cherry, Inca berry, Golden strawberry, Strawberry tomato, Husk tomato

โทงเทงฝรั่ง มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้แถบประเทศโคลอมเบีย เอกวาดอร์ เปรู และชิลี รวมทั้งในบราซิล จึงมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ตามภูมิศาสตร์กำเนิดว่า Physalis  Peruviana L. ซึ่งตอนนี้ได้รับการเพาะพันธ์ุ และนำไปปลูกในหลายๆประเทศทั่วโลก โดยจะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่น ในเมืองไทยเองก็มีการเพาะปลูกเพื่อการจะหน่ายมาซักพักใหญ่ๆแล้ว

โทงเทงไทย กับโทงเทงฝรั่งต่างกันอย่างไร

ความจริงแล้วในประเทศไทยก็มีโทงเทงสายพันธ์ุท้องถิ่นอยู่ เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยผ่านตากันมาแล้วบ้าง โทงเทงไทยเป็นวัชพืชที่ขึ้นง่ายขยายพันธุ์รวดเร็ว ลำต้นและรูปทรงใบต่างจากเคพกูสเบอร์รี่โดยสิ้นเชิง โดยผลมีขนาดผลเล็กกว่ามาก รูปทรงของผลและสีต่างจากโทงเทงฝรั่ง และรสชาติก็ต่างกัน โดยโทงเทงไทยจะมีรสชาติเฝื่อนและขมละม้ายคล้ายมะเขือมากกว่า มีสรรพคุณทางยา โดยโทงเทงไทย ถือเป็นยาเย็น

• ช่วยแก้ไข้
• ตัวร้อน
• ขับเสมหะ
• แก้เจ็บคอ
• แก้ไอ
• ช่วยลดอาการอักเสบในลำคอ

ส่วนโทงเทงฝรั่ง (เคพกูสเบอร์รี่) ที่มีรูปทรงรวมๆ อาจเหมือนโทงเทงไทย แต่ขนาด สี รสชาติต่างกัน สำหรับคนที่ไม่เคยทาน สิ่งแรกเลยคือกลิ่น เคพกูสเบอร์รี่ถือเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นหอมแบบเฉพาะตัว รูปร่างรูปทรงและผิวด้านนอกเหมือนมะเขือเทศ เมื่อผ่าดูด้านในจะมีเมล็ดขนาดเล็กกระจายอยู่เต็มผล รสชาติ เปรี้ยวอมหวาน คล้ายๆ องุ่นผสมมะเขือ เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีสัมผัสที่น่าสนใจชนิดนึงเลยทีเดียว

ประโยชน์ของเคพกูสเบอร์รี่(โทงเทงฝรั่ง)

ผลไม้อย่างเคพกูสเบอร์รี่นั้น มีประโยชน์มากมายอย่างที่บอกไปข้างต้น มีทั้งแร่าตุและวิตามินต่างๆ โดยอุดมไปด้วยวิตามิน C ที่มีคุณสมบัติป้องกันไข้หวัด (2009) และโรคภูมิแพ้ได้ ซึ่งปริมาณวิตามิน C ในเคพกูสเบอร์รี่สูงเป็นสองเท่าของมะนาวเหลือง(Lemon)เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

มีวิตามิน A ที่ช่วยป้องกันอาการตาบอดในที่มืด ทำให้สายตาดีขึ้น  ช่วยให้ผิวพรรณสวยสดใส ผมสวยดกดำ  นอกจากนี้ยังเป็นผลไม้ที่มีโปรตีนสูง มีวิตามิน บี1 และบี 2 และยังพบสารแคโรทีนอยด์ที่เป็นสารช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและและโรคหัวใจอีกด้วย

คุณค่าทางอาหารของ เคพกูสเบอร์รี่

ปริมาณเปรียบเทียบที่ 100 กรัม
พลังงาน	53 kcal
โปรตีน	1.90 กรัม
ไขมัน	0.70 กรัม
คาร์โบไฮเดรต	11.2 กรัม

เคพกูสเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่ออกตามฤดูกาล พบได้มาช่วงหน้าหนาวของไทย ซึ่งตอนนี้ตามซุเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ร้านค้าโครงการหลวง และ Golden Place ก็มีวางจำหน่ายกันแล้ว แถมในอีกหลายๆจังหวัดในภาคเหนือก็มีจำหน่าย มีทั้งแบรน์เอกชน และแบรนด์สินค้าของโครงการหลวง ราคาต่อกล่องอยู่ที่ประมาณ 60-100 บาท (แล้วแต่สถานที่จำหน่าย) บางที่มีนำมาแบ่งขายเป็นกล่องเล็กๆ ราคา 40-50 บาทก็มี สนใจก็ลองไปหาซื้อมาชิมดูได้

เคพกูสเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูทตี้

เมื่อหน้าเคพกูสเบอร์รี่มาถึง ก็ต้องไม่พลาดที่จะนำมาประกอบเมนูเด็ดๆช่วยคลายหิว ที่ให้พลังงานน้อย แต่อิ่มกำลังดี แถมให้คุณประโยชน์แบบเน้นๆ รสชาติน่าจะถูกใจสาวๆ เป็นยิ่งนัก ยิ่งอากาศแบบหน้าหนาว ที่ไม่หนาวถึงใจแบบนี้ สมูทตี้เย็นๆนุ่มๆ ก็เป็นเมนูนึกถึงเป็นอันดับแรกๆเลย

เคพกูสเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูทตี้เป็นเมนูที่ใช้ส่วนผสมพื้นๆหาได้ตามร้านสะดวกซื้อ (ยกเว้นเคพกูสเบอร์รี่นะ) อาจจะต้องพึ่งพาเครื่องปั่นกันซักหน่อย แต่รับรองว่าอร่อยหอมสดชื่นแน่นอน ใครชอบรสชาติเคพกูสเบอร์รี่มากๆ ก็ใส่เยอะๆ ไม่ผิดกติการ แต่พลังงานรวามจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมนูนี้ไม่ใช่อร่อยอย่างเดียว แต่ยังช่วยเรื่องการขับถ่ายได้อีกด้วยใครพุงป่องท้องผูกลองเอาไปทำได้เลยนะ

อุปกรณ์และส่วนผสมของเคพกูสเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูทตี้

• เคพกูสเบอร์รี่ 50 กรัม พลังงาน 27 kcal (ใครอยากได้รสเคพกูสเบอร์รี่แบบเต็มๆก็ใส่เพิ่มได้ตามอัธยาศัย)
• โยเกิร์ต 0% fat รสวุ้นมะพร้าว 1 แก้ว พลังงาน 80 kcal
• นมขาดมันเนย 80 กรัม พลังงาน 36 kcal
• น้ำผึ้ง 1/2 ช้อนโต๊ะ พลังงาน 32 kcal
• น้ำมะนาว 1/2 ผล พลังงาน 10 kcal
• เกลือเล็กน้อย
• น้ำเเข็งเล็กน้อยแค่เพิ่มความเย็น

วีดีโอวิธีทำเคพกูสเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูทตี้

วิธีการทำเคพกูสเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูทตี้

เริ่มด้วยการนำเอาเคพกูสเบอร์รี่มาแยกเปลือกด้านนอกออก ล้างให้สะอาด นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆหน่อย จะได้ปั่นได้ง่ายขึ้น จากนั้นเติมส่วนผสมที่เหลือลงไป โยเกิร์ต fat free รสวุ้นมะพร้าว นมขาดมันเนย น้ำผึ้ง บีบมะนาวนิดเพิ่มความหอมสดชื่น และตามด้วยเกลือ ตามด้วยน้ำแข็ง จากนั้นก็กดปั่น…ปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทใส่แก้วแนวๆ ตกแต่งด้วผลเคพกูสเบอร์รี่ซักหน่อย ง่ายๆเท่านี้ก็ได้เมนูเคพกูสเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูทตี้ไปทานกันแบบหอมๆ ชื่นใจแล้ว

พลังงานตามสูตรก็น่ารักน่าชัง 1 แก้วเพียง 185 kcal แต่เรื่องคุณค่าทางอาหารไม่ต้องพูดถึง ใครจะนำไปเป็น เครื่องดื่มเพิ่มพลังงานก่อนออกกำลังกาย หรือ เป็นเครื่องดื่ม reboot หลังออกกำลังกายก็ได้เช่นกัน