สลัดแซลมอนสดน้ำยำไทย หรือ แซลมอน ทาทากิ หรูหราไฮโซวมากเมนูนี้ เป็นเมนูระกับภัตคารที่ทำได้เองเครื่องปรุงและส่วนผสมหาได้ในครัวบ้านๆอย่างเราๆนี่หล่ะค่ะ
ส่วนผสมและเครื่องปรุง
- ผักครอสเลตทัส
- แตวกวาญี่ปุ่นหั่นเป็นท่อนพอคำ
- มะเขือเทศหั่นเต๋าใหญ่
- หอมใหญ่ซอย
- เนื้อปลาแซลมอนสดหันเต๋า หรือแล่เป็นชิ้นพอคำ
- ตะใคร้ซอย
เครื่องน้ำยำ
- พริกขี้หนูสับ
- กระเทียมสับ
- น้ำปลา
- มะนาว
- น้ำตาลเล็กน้อย
วิธีการทำ
- ผสมเครื่องน้ำยำก่อนโดยการใส่พริกขี้หนูสับ กระเทียมสับ น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลเล็กน้อย ปรุงรสตามชอบ
- เติมหอมใหญ่ซอย ตะใคร้ แตงกวา มะเขือเทศ และเนื้อปลาแซลมอน แล้วตะล่อมเบาๆ พอเข้ากัน
- จัดจานด้วย ผักครอสเล็ตทัส หรือจะใช้หัวใช้เท้าหั่นฝอยก็อร่อยค่ะ
ประโยชน์ของเนื้อปลาแซลมอน
“แซลมอน” ได้ชื่อว่าเป็นปลาจากแหล่งบริสุทธิ์ที่ไร้มลพิษและมีคุณค่ามากมาย เพราะระหว่างที่อยู่ในทะเล แซลมอนจะสะสมไขมันจากการกินแพลงตอนและสาหร่ายทะเล ซึ่งเป็นไขมันจำเป็นที่ร่างกายมนุษย์ต้องการแต่สร้างขึ้นเองไม่ได้ นั่นคือกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่เรียกว่า โอเมกา-3 ซึ่งมีประโยชน์มากมายต่อมนุษย์
เชื่อกันว่า ปลาทะเลเขตหนาวของมหาสมุทรแอตแลนติก (หรืออลาสก้าของประเทศสหรัฐอเมริกา) จะมีโอเมกา-3 มากกว่าในเขตร้อน โดยเฉพาะปลาแซลมอนจัดว่าเป็นปลาที่มีโอเมกา-3 สูงกว่าปลาทะเลชนิดอื่นๆ ซึ่งกรดไขมันโอเมกา-3 นี้จะประกอบไปด้วยกรด EPA และ DHA
คุณประโยชน์ของโอเมก้า-3 ที่ได้จากปลาแซลมอน
- สามารถลดคอเรสเตอรอลและไขมันที่ชอบสะสมตามผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ชะลอการปวดบวมของโรคกล้ามเนื้ออักเสบและโรครูมาตอยด์ ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังและทำให้ข้อพิการ
- ลดการเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งสำไส้ใหญ่ เป็นต้น
- ช่วยลดความดันโลหิต เมื่อรับประทานเป็นประจำ กรด DHA จะช่วยพัฒนาสมอง สายตาความจำและการเรียนรู้
- ช่วยระงับอารมณ์ ยับยั้งอาการป่วยและความห่อเหี่ยวทางจิตใจ ซึ่งมีผลมาจากสมอง
- ลดอาการเย็นของมือและเท้าในผู้ป่วยโรคเรย์นอค
การ รับประทานปลาแซลมอนจึงมีคุณค่าทางโปรตีนสูง ส่วนไขมันและคอเรสเตอรอลนั้นต่ำมาก และยังสามารถทดแทนสารอาหารที่ได้จากเนื้อวัว เนื้อหมู และสัตว์อื่นๆ นอกจากนี้นักวิจัยชาวออสเตรเลียยืนยันมาว่าหากรับประทานบ่อยครั้ง จะช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย
Credit: onknow.blogspot.com