สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อ หรือคนที่กำลังดูแลสุขภาพอยู่ การชั่งน้ำหนักเพื่อเช็คดูว่าตัวเองมีน้ำหนักเท่าไหร่แล้ว ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ต้องทำเป็นประจำแทบจะเป็นเพื่อคู่คิด มิตรคู่ใจกันเลยทีเดียว วันนี้เรามีคำแนะนำจากผู้เชียวชาญมาบอกว่าการชั่งน้ำหนักเป็นประจำนั้นควรทำและไม่ควรทำ
ผู้เชี่ยวชาญ Dawn Jackson Blatner จาก The American Dietetic Association กล่าวว่า “อย่างที่เรารู้กันดีว่าคนที่ชั่งน้ำหนักเป็นประจำนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี จะทำให้เรากำหนดและวางแผนวิธีการได้เหมาะสม แต่บางครั้งมันก็ดูจะเป็นเรื่องน่าเบื่อเกินไป” ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ชั่งน้ำหนักเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากปัญหาที่พบกับคนที่ชั่งน้ำหนักเป็นประจำทุกวันนั้น จะมีโอกาสเกิดอาการหมกมุ่นกับตัวเลขบนตราชั่งมากจนเกินไป จนทำให้วิตกกังวลและเกิดภาวะเครียดกับการลดน้ำหนักขึ้นได้
เพื่อขจัดความกังวลนี้ เราควรถามใจตัวเองว่าถ้าหากเราชั่งน้ำหนักทุกๆวันแล้วทำให้เราเครียดหรือกังวลมากไป มีผลกับจิตใจ ความมั่นใจในตัวเองมากไหม หรือไม่สบายใจกับการขึ้นๆลงของตัวเลขน้ำหนักบนตราชั่งที่อาจเกิดขึ้นรายวันได้ ถ้าคำตอบของคุณคือ “ใช่” เราแนะนำให้ชั่งน้ำหนักเพียงแค่สัปด่ห์ละครั้งก็พอค่ะ
4 สิ่งเดิมๆที่แนะนำให้ทำเมื่อชั่งน้ำหนักตัว
เมื่อชั่งน้ำหนักตัว เราควรเลือก
- เวลาเดิม
- ในวันเดิมของสัปดาห์
- ใส่เสื้อผ้าในชุดเดิม (หรือไม่ใส่ก็ได้)
- บนเครื่องชั่งตัวเดิม
ถ้าหากคุณใช้เครื่องชั่งที่บ้าน ต้องมั่นใจว่า เครื่องชั่งจะถูกวางในพื้นเรียบ เช่น พื้นปูน กระเบื้อง พื้นไม้ ไม่แนะนำให้วางบนพรม เพราะอาจทำให้คลาดเคลื่อนได้
นอกจากนี้โดยปรกติในแต่ละวันร่างกายของเราจะสามารถมีน้ำหนักปรับขึ้นๆลงๆช่วงระหว่าง 0.5 – 1 กก.ได้ หรือแม้แต่สัปดาห์ก็เช่นกัน
ปัจจัยที่ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นและลงเองได้มาจาก
- ทานอาหารรสเค็ม หรือรสจัดมากเกินไป
- สภาพอากาศ
- ปริมาณน้ำในร่างกาย แลระดับฮอลโมล
เหตุผลเหล่านี้จึงทำให้ผุ้เชียวชาญแนะนำให้ดูภาพรวมของน้ำหนักมากกว่าที่จะดูน้ำหนักที่โชว์บนตราชั่งทุกวัน เพราะนำหนักตัวนั้นเกิดจากการกระทำซ้ำๆในระยะเวลาหนึ่ง และการรับประทานอาหารวันต่อวันนั้นจะยังไม่แสดงผลบนตราชั่งมากนัก
การเช็คความคืบหน้าที่ผึ้งแนะนำนอกเหนือจากการชั่งน้ำหนักคือ การวัดเปอร์เซ็นไขมันตามร่างกาย ด้วยเครื่องชั่งที่มีระบบการวัดมวลไชมันโดยละเอียด เครื่องคาลิเปอร์ หรือวิธีการง่ายๆถ้าหากไม่มีเครื่องมือเหล่านี้ คือ การตรวจเช็คดูจากเสื้อผ้าที่ใส่ประจำเสมอว่า มีอาการคับหรือหลวมลงไปมากน้อยแค่ไหน หรือแม้แต่ วัดสัดส่วนของตัวเราเองด้วยสายวัด ตามจุดต่างๆดังนี้
- รอบอก
- รอบต้นแขน
- รอบเอว
- รอบสะโพก
- รอบต้นขา และจัดบันทึกไว้ จากนั้นวัดซ้ำในทุกๆ 1 – 2 สัปดาห์เพื่อดุความเปลี่ยนแปลงค่ะ
มาถึงตรงนี้หลายๆคนคงจะเห็นไอเดียในการสร้างแรงบันดาลใจว่ามันไม่จำเป็นต้องดูตัวเลขบนตราชั่งเพียงอย่างเดียว แต่เราสามารถสร้างได้โดยการดูจากจำนวน นิ้ว หรือ เซนติเมตรที่หายไปได้เช่นกัน หรือถ้าหากการชั่งน้ำหนักเป็นการทำร้ายจิตใจคุณเหลือเกิน แนะนำให้ใช้เสื้อผ้าตัวเก่าในตู้เสื้อผ้าที่คับแล้วเป็นตัววัด ถ้าภายใน 3 เดือนต่อมาถ้าหากเสื้อตัวเดิมไม่คับอีกต่อไปนั้นหมายความว่าคุณมาถูกทางเล้วค่ะ ขอให้มีความสุขในการลดอย่างมีสติ และถูกวิธีการค่ะ