น้องอ๊อฟเล่าให้ฟังว่า
เนื่องจากมีคนถามกันมาเรื่องลดน้ำหนักหลายคนมาก ว่าออฟลดได้ยังงัยวันนี้เลยอยากจะมาแชร์วิธีการในการลดน้ำหนักของอ๊อฟ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเมื่อก่อนก็ลองมาหลายวิธีเหมือนกันครับ ทั้งกินยาลดน้ำหนัก กินอาหารเสริม กินยาระบาย หรือแม้กระทั่งล้วงคออ้วก แต่มีอยู่สองอย่างที่ไม่เคยคิดที่จะทำนั่นก็คือการควบคุมอาหาร แล้วก็การออกกำลังกาย ก่อนหน้าที่ทำวิธีต่างๆตามข้างต้น ก็ลดลงมาในระดับนึง แต่ด้วยความที่น้ำหนักตัวก่อนลดของอ๊อฟค่อนข้างเยอะ 102 kg. เลยทำให้ลดลงได้เยอะในช่วงแรก แต่เมื่อผ่านไปก็กลับมาเหมือนเก่า เพราะยังติดนิสัยการกินและการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ
จุดเริ่มต้นที่ทำให้อ๊อฟลดน้ำหนักแบบจริงจัง นั่นก็คือ ช่วงที่อกหัก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ช่วงนั้นน้ำหนักลดลงไปค่อนข้างเยอะพอสมควร จนเมื่อเราเริ่มดีขึ้นก็เลยมานึกดูว่า ถ้าเรากินเหมือนตอนที่เราอกหักเราก็คงลดน้ำหนักได้ หลังจากนั้นก็เริ่มลดมาเรื่อยๆ
วิธีการในการลดน้ำหนักของอ๊อฟอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ถูกต้องที่สุดตามหลักโภชนาการ แต่อ๊อฟปรับเพื่อให้เข้ากับกิจวัตรประจำวันของตัวเอง วันธรรมดาที่ต้องไปเรียน อาหารเช้าที่ทาน(เป็นส่วนใหญ่) คือ หมูปิ้ง เน้นคือต้องเป็นหมูจริงๆ มีมันให้น้อยที่สุดหรือไม่มีมัน 1-2 ไม้ และไม่มีข้าวเหนียว มื้อเที่ยง ก็ข้าวราดแกง แต่เน้นพวกแกงที่เป็นผัก เช่น แกงไตปลา แกงส้ม แกงเลียง และกินผักสดเข้าไปด้วย พยายามหลีกเลี่ยงของทอดและพวกผัดที่มีน้ำมันเยอะๆ มื้อเย็นส่วนใหญ่จะเป็น ส้มตำ ยำ หรือไม่ก็ลูกชิ้นปิ้งกินแกล้มกับผักเยอะๆ ด้วยความที่อ๊อฟเป็นคนที่ชอบกินผักอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่มีปัญหาในการกินผักเยอะๆ หลักสำคัญในการลดน้ำหนักของอ๊อฟก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงแป้งในมื้อเย็น ทานมื้อเย็นก่อน 6 โมงเย็น และคำนวนแคลอรี่ในแต่ละวันไปด้วย ถ้าวันไหนกินมื้อไหนหนัก มื้อต่อไปก็ต้องทานให้น้อยลง
ช่วงแรกๆใช้วิธีควบคุมอาหารอย่างเดียวก็ได้ผลดี แต่จะผอมลงแบบไม่เฟิร์ม จริงเริ่มที่จะออกกำลังกาย มีช่วงที่ปิดเทอม จะได้ไปฟิตเนสแบบจริงจัง อยู่ในฟิตเนสซะส่วนใหญ่ของวัน แต่เมื่อเปิดเทอมไม่มีเวลาไปฟิตเนส จึงใช้วิธีการเดินขึ้นลงบันไดแทนการขึ้นลิฟท์ เพราะอ๊อฟพักอยู่ที่ชั้น 4 ของหอ การได้เดินขึ้นลงบันไดทุกวันๆๆ ก็เหมือนกับการได้ออกกำลังกายแบบเบาๆไปในตัว ปัจจุบันอ๊อฟมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 62 kg. ช่วงนี้แค่ควบคุมอาหารเพราะว่าไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย ให้น้ำหนักอยู่ในช่วงประมาณนี้ ไม่ให้ขึ้นหรือลงมากเกินไปครับ
คำแนะนำ : วิธีการของน้องอ๊อฟยังไม่สมบูรณ์ซะทีเดียว เพราะมื้อเช้าทานค่อนข้างน้อย และเลือกหมูปิ้งซึ่งหลีกเลี่ยงได้ยากเรื่องความมัน และหมูปิ้งหมักด้วยเครื่องปรุงและน้ำตาลปริมาณมาก ดังนั้นควรควบคุมปริมาณ หรือเปลี่ยนมื้อเช้าเป็นอาหารประเภทไข่ที่ไม่ทอดน้ำมัน เสริมด้วยข้าวกล้องข้าวซ้อมมือจะเป็นมื้อเช้าที่ให้คุณค่าทางอาหารและทำให้อยู่ท้องอีกด้วย
ส่วนของมื้อเย็น ถึงจะเป็นยำหรือส้มตำควรระวังเรื่องน้ำตาลและโซเดี่ยมแฝงด้วย ควรเปลี่ยนและหลีกเลี่ยงการทานอาหารแปรรูปอย่างลูกชิ้น ใส้กรอก เปลี่ยนมาเป็นไก่ย่างส่วนอกเลาะหนัง หรือไข่ต้มจะช่วยให้การลดถูกหลักมากยิ่งขึ้น
ทางทีมงานขอแสดงความยินดีกับน้องอ๊อฟด้วยนะคะ ที่ทำได้และประสบความสำเร็จแล้ว และขอบคุณ ที่มาแชร์ประสบการณ์กับทาง LOVEFITT เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆทุกคนที่พยายามอยู่นะคะ